วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สัญญาณรักของตัวเอง กับแรงโน้มถ่วงของความรู้สึก(ตอน พิเศษ)




รายชื่อบวกกับโน้ตเล็ก ๆ ที่ผมเขียนกำกับไว้คงทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเตือนความทรงจำถึงเคราะห์กรรมความสูญเสีย กระสอบทรายราคา ที่ห้อมล้อมชีวิตเราอยู่ ณ ตอนนั้นได้บ้างแวนซ์ บริเทนริคเกอร์ (11/1/63 จิตรกร)สี เบรวาร์ด (ปารีส 79 ทำงานร้านเพชร) บิลลี่ แบร์นาโด้ (การ์ดฟรี)อัล แกมเบิร์ก (ทำงานบริษัทเมซี่ล้แอนด์แอตแลนต้าดีไซน์)จอน กูลด์ (พาราเมาท์/วอร์ฮอล/ปารีส ถ. 15 แชร์คเช่ มิติ)เคนนี่ แซทซ่า (หนุ่มแต่งหญิงที่สปอร์ต คอนเนคชั่น)ทิเล กันนิลัน (เพื่อนของบรูซ ติชัน)คืธ แฮรื่ง (ให้โทร.ที่บ้านเท่านั้น/เลขาชื่อจูเลีย กรูเอน)เออร์นึ่ ครัทเธอร์ส (สตูดิโอ า/รับเชิญ/วีไอพี)เกร็ก สจ๊วร์ท (เพพเพอร์ดีน ดับเบิ้ลยู/เควิน เอฟ/ น้องชื่อเซลดัน แอนเดิลสัน (ธนาคารแอลเอ)รซาร์ด การ์เนอร์ (ซีพีเอ)เดวิด พอลลาร์ด (ทนาย/ให้โทร.ในรถ)ยูยีน ไรแมน (เจอพร้อมกับจิม บรูคเกอร์)จอร์จ คราวลีย์ (แฟนของแสตน)เดวิด ซอลติส (เพื่อนของด็อค/เพื่อนของที.เจ.ที่แอตแลนต้า)จอห์น (จากซีสเค้กแฟคทอรี่ของเควิน ฟาว์เลอ!)แพททริค แมคไกวร์ (เพื่อนของอัลเบิร์ต)อาร์เธอร์โพรมอฟฟ้ (คลิฟ/ทำงานให้เดวิด เกฟเฟน)บรูซ ไว”นโทรบ (ดีไซน์แอลเอ)เอริค ทิเชเชอ! (เวยน์)บิล มิลเลอร์ (ดิ แอทลีธิค คลับ)แดน สโตน (สัมมนา A Course in Miracles)บิลลี่ แจ๊คลัน (เพื่อนของบิลลี่ โบโลนญ่า)ดั๊ก แฮร!สัน (เจ.ที.)แลนซ์ สติวการ์ท (ช่างผม)คนเรามักขาดการติดต่อกับคนรู้จักด้วยว่าชีวิตเปลี่ยนไป แต่ขาดการติดต่อเพราะมีความตายมาบังคับนี่สิ มันต่างกันเหลือเกินผมถึงกับปิดหน้าร้องไห้ยามที่อ่านรายซื่อของเพื่อนเหล่านี้ มีบทสรุปเดียวที่ผมคิดได้คือชีวิตช่างไร้ค่าสิ้นดีปี 1990 ที่แอทลืธิค คลับในลอสแอนเจลิส อัลเบิร์ตกับผมได้พบหน้ากันอีกครั้งไป ค่ายมวย คลับกลายเป็นที่โทรมๆ ขาดการดูแล ไม่กี่ปีก่อนหน้านั้นมันเคยเป็นคลับยอดนิยม แต่ตอนนี้กลับมีแต่คนไข้โจเอล รอธลไชล์ด ติดเอดส์'ที่พยายามยึดเหนี่ยวสังขารที่ยังพอเดินได้เต็มไปหมดผมอยู่ในห้องล็อคเกอร์แล้วเหลือบไปเห็นชายหนุ่มดูเท่มากคนหนึ่ง ทั้งเขาทั้งผมจำกันไม่ได้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเวลาผ่านไปตั้งไม่เกี่ปีมาแล้ว อัลเบิร์ตไปทำศัลยกรรมมา ส่วนผมก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นและไม่ได้เล่นกล้ามอีกแล้ว เราทั้งคู่ต่างเดินทางกันไปยาวไกล และใช้ชีวิตกันเต็มที่ ซื่อนับร้อยและใบหน้านับพันผ่านชีวิตเราแล้วจากไปตั้งแต่คืนวันที่ไมอามี่เป็นต้นมาเรายืนกันอยู่ตรงนั้น อัลเบิร์ตแว่บมองมาที่ผม ผมแว่บมองไปที่เขา แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานหลายปีเพียงใด เราก็ยังเห็นว่าอีกฝ่ายต้องตาต้องใจกันและกันอยู่ดี ตลอดหลายอาทิตย์ต่อมาเราส่ง กระสอบทรายยักษ์ ยิ้มให้และทักทายเล็กๆ ตอนเจอกันที่ยิม แต่กลับจำกันไม่ได้เลยว่าในอดีตเราเคยรู้จักกันมาก่อน วันหนึ่งผมนั่งอยู่ในคลับกำลังกินมื้อกลางวันหลังออกกำลังเสร็จ อัลเบิร์ตเดินเข้ามาหาถามว่าขอนั่งด้วยคนได้ไหม เรานั่งคุยกันหลายชั่วโมงแต่ก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีว่าเคยรู้จักกันที่ไมอามี่ สองคนมีหัวข้อคุยกันได้ทุกเรื่องไม่มีติดเลยคุยกันได้พักหนึ่ง อัลฌิร์ตก็วางมือบนต้นขาผม บีบเบาๆแล้วถามว่าผมอยากกลับบ้านกับเขาไหม ถามความรู้สึกเบื้องลึกของมนุษย์ผมต้องอยากมีเซ็กส์กับเขาแน่ๆ แต่ใจผมเองหวังเสมอว่าเราต้องได้พบกับรักแท้ที่มีค่ามีความหมายกว่านี้ ก็เลยจับมือเขาออกและปฏิเสธแบบสุภาพด้วยการบอกว่าผมรู้ว่าเราสองคนน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากเลยนะอัลเบิร์ตเผยยิ้ม ไม่แสดงอาการผิดหวังออกมาให้เห็นเลยยิ่งยืนยันความสงลัยของผมว่านึ่ถ้าผมเปิดรับการจีบของเขา ตัวเองก็คงกลายเป็นอีกแค่รายชื่อหนึ่งในบัญชีของคนที่เขาจีบติด

กระสอบทรายตั้งพื้น

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พูดอย่างไรให้ชนะใจคนฟัง


                                                
กระสอบทรายซ้อมมวย


ขอเอาบทในเรื่องของการพูดที่ล้มเหลวมากล่าวให้ฟังโดยรวมเลยว่า การพูดที่แย่ หรือการพูดที่ทำให้การสื่อสารนั้นไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังเอาไว้เป็นอย่างไร และอะไรทำให้การสื่อสารหรือว่าการพูดของเราล้มเหลว หรือไม่ได้รับการยอมรับอยู่เรื่อยไป โดยให้เราลองสำรวจตัวเองดูว่า เรามีคุณสมบัติต่อไปนี้หรือไม่ หากว่ามีก็ให้รีบปรับปรุงแกไขโดยด่วน ก่อนที่การสื่อสารของเราจะผิดพลาดไปยิ่งกว่านี้    พูดอย่าโรจุดหบ!ยเรื่องที่เราพูดแต่ละเรื่องนั้นควรจะมีจุดมุ่งหมายในการพูดไมใช่พูดไปเรื่อย พูดไม่ยอมหยุด พูดโดยไม่รู้ว่าเราจะพูดไปทำไม หรือเพื่ออะไร ซึ่งการพูดอย่างนี้ทำให้การพูดของเราไร้ค่า และไม่มีใครอยากจะพูดคุยด้วย เพราะพูดคุยไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรสักเท่าไรนัก แถมยังน่าเบื่ออีกด้วยวิธีแก้ไขก่อนที่จะพูดให้เราหาจุดมุ่งหมายในการพูดของเราเสียก่อน กระสอบทรายตั้งพื้นราคา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการชี้แจง ขำขัน บอกเล่าประสบการณ์ พูดเพื่อยกตัวอย่างในเรื่องที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ หรือเพื่อเป็นคติเตือนใจ เป็นต้นเมื่อเรามีจุดมุ่งหมายในการเล่าเรื่องราวที่เราเล่านั้นก็จะน่าฟังมากยิ่งขึ้นขาตการเตรยมตัวหากว่าเป็นการพูดในชีวิตประจำวันเราก็อาจจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย แต่หากว่าเป็นการพูดในที่สาธารณะ หรือว่าเป็นการพูดเพื่อเสนองานหรือสินค้า เราก็ต้องมีการเตรียมข้อมูลเสียหน่อย เพราะหากว่าเราไม่ได้เตรียมข้อมูลให้ดีพอ การพูดของเราก็จะหลักลอย ไร้ความน่าเชื่อถือไปเลย    ดังนั้นการเตรียมตัวเกี่ยวกับเรื่องที่พูดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพูดของเรา นอกจากนั้นจึงทำให้เรามั่นใจมากขึ้นอีกด้วยวิธีแก้ไขวิธีแกไขง่ายๆ ก็คือ เตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อม ทั้งเรื่องข้อมูลทางฝ่ายเรา และข้อมูลของคนที่เราจะต้องไปพูดด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร และมีเนื้อหาอย่างไร อย่างเช่นการพูดเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมกับเด็กนักเรียน กับการอบรมคุณครูที่สอนก็ย่อมมีความแตกต่างกัน เป็นต้น  พูดดวยนาเสีย คนทินไป ที่แขวนกระสอบทราย คนที่พูดเบานั้นยากที่จะดึงความสนใจของผู้อื่น และหากพูดด้วยนํ้าเสียงราบเรียบสมํ่าเสมอ มันชวนให้ง่วงมากกว่าชวนให้ตั้งใจฟังดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบางคนพูดแล้วมีคนหลับมากกว่าคนฟังวิธีแก้ไขพยายามฝึกพูดให้ดังขึ้น แต่ไม่ใช่ตะโกน เป็นการพูดโดยให้เสียงออกมาจากช่องท้อง และฝึกการพูดให้มีจังหวะจะโคนดี มีเสียงดนตรีหนักเบา ไม่ราบเรียบเสมอกันไปหมดจนทำให้น่าเบื่อเป็นทา หุ่นกระสอบทรายการทินใบในการพูดที่ไม่ใช่การพูดในเชิงวิชาการ หากว่าพูดเป็นทางการหรือว่าพูดด้วยทำทีที่นิ่งเฉย ไม่มีแอ็กชั่น หรืออารมณ์ ความรู้สึกใดๆอาจจะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกเกร็งและเบื่อหน่ายไปด้วยวิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือ พูดคุยด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายและเป็นฺกันเองมากขึ้นอาจจะแทรกมุกตลกไประหว่างการพูด เพื่อเป็นการช่วยทำให้การพูดคุยไม่เครียดจนเกินไปนัก และสามารถจะคุยได้ยาวกว่าการคุยแบบเป็นทางการอีกด้วยพอปางไรให้ฯmะใจนละก้าวหน้า เราคงจะเคยเจอคนที่พูดไม่ชัด เมื่อฟังแล้วเราก็จะรู้สึกรำคาญอยู่ในหัวใจ ซึ่งหากว่าไม่ต้องฟังบ่อยก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากว่าต้องฟังบ่อยๆ ละก็ คงจะเบื่อเป็นแน่แท้ เพราะคนที่พูดชัดทุกคำทั้งคำควบกลํ้าและคำอื่นๆ ก็ย่อมจะเป็นคนที่มีเสน่ห์ พูดจาน่าฟังและน่าพูดคุยกว่าเป็นแน่แท้วิธีแก้ไขการพูดไม,ชัดสามารถแก็ไฃได้โดยฝืนตัวเองในระยะแรกๆ เพื่อที่จะพูดให้ซัดถ้าจะให้ดีลองอัดเสียงตัวเองลงในที่อัดเสียงแล้วฟังดู เพื่อที่จะสืกพูดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

กระสอบทราย

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ว่ากันด้วยเรื่องกระสอบทรายกับเป้าชก แตกต่างกันอย่างไร

ดูเหมือนว่าปัจจุบันนี้เรื่องของการค้าขายนี้จะมาแรงแซงโค้งทุกอย่าง ซึ่งในการขายการพูดนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะหากว่าพูดไม่ดีกั๊ทำให!ม่มีคนชื้อ หาซื้อกระสอบทรายมือสอง แต่หากว่าพูดดี พูดเก่ง และพูดให้คนมาชื้อของเราได้ แน่นอนว่าก็จะมืแต่คนมาซื้อของกับเราอย่างแน่นอน การพูดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อการค้าขาย ดังนั้นหากว่าเราอยากจะเป็นนักขายมือหนึ่ง เราก็ต้องเป็นนักพูดมือหนึ่งด้วยเช่นเดียวกันพูดออ่ะขายใต้การขายของให้ได้นั้น ก็มีหลักทั่วๆ ไปของการขายซึ่งก็เป็นสิงที่เราจะต้องจำเอาไวใส่ใจ เพื่อที่จะได้ขายของได้อย่างมืออาชีพ และสามารถที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าและทำให้เราดูน่าเชื่อถือได้ในปัจจุบันนั้นคนเราขี้ระแวงมากยิ่งขึ้น 

อาจจะเป็นเพราะข้อมูลข่าวสารที่บ่งบอกว่ามืมิจฉาชีพ หรือว่าพวกที่ต้มตุ๋นหลอกขายสินค้าจำนวนมาก จึงทำให้การขายของต้องมืชั้นเชิงมากยิ่งขึ้น จะต้องทำให้ลูกค้าเชื่อว่าเราไม่ได้มาหลอกลวง หรือว่าอยากจะหาผลประโยชน์ใดๆ และเราก็ต้องทำตามนั้น ก็คือขายของด้วยความสุจริตใจนั่นเองการขายของให้ได้อย่างมืออาชีพนั้น เราควรจะเรียนรูในเรื่องต่างๆ ด้งต่อไปนี้1รียนรู้ที่จะพูดกับคนคนแต่ละคนนั้นมืลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บางคนสุภาพอ่อนโยน เราพูดอะไรก็ฟัง บางคนก็ตั้งท่าว่าเราจะมาหลอกลูกเดียว  บางคนกั๊คิดอคติกับตัวเรา และนอกจากนี้แต่ละคนก็มีความรู้ความคิดที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การพูดจาของเรากับคนแต่ละคนจึงต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบุคลิกของคนที่เราต้องการขายของให้ด้วยเหตุที่แต่ละคนนั้นมีพื้นฐานของความต้องการ และอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ในการเสนอขายของเราแต่ละครั้งก็ควรจะเป็นในทางที่แตกต่างกันออกไป

และหากว่าเรามีสินค้าในมือหลายต้วก็ควรจะเลือกที่จะขายสินค้าให้กับแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นหากว่าเราเป็นเซลล์ขายหนังสือกับว่าที่คุณแม่เราก็อาจจะเลือกหนังสือเกี่ยวกับการตั้งท้อง เด็กวัยรุ่นผู้หญิงก็อาจจะเลือกขายหนังสือนิยายวัยรุ่น เจ้าของแผงหนังสือต่างจังหวัดก็อาจจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการทำเกษตร กระสอบทรายราคาถูก นิยายเล่มเล็กๆ ที่อ่านเพลินๆ เป็นต้นการเรียนรู้ที่จะพูดกับคนได้นั้น  เราจะต้องรู้พื้นฐานความต้องการและจิตใจของเขา และถ้าจะให้ดี เราควรจะคาดเดาอารมณ์ความรู้ของเขาในขณะนั้นได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคนนั่นเองนักขายที่ดีควรจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อหา ไมใช่เดินหนี หรืออยากจะเร้นกาย ไม่อยากจะให้เจอ ด้งนั้นเราจึงควรจะรู้ว่าเราควรจะทำอย่างไรให้ลูกค้านั้นชื่นชอบ นอกจากลูกค้าในปัจจุบันแล้วยังต้องคิดถึงลูกค้าในอนาคตอีกด้วยรู้จักกามความต้องการของลูกค้านักขายหลายๆ คนมีความผิดพลาด หรืออาจจะเรียกได้ว่าละเลยที่จะถามความต้องการของลูกค้า ว่าเขาต้องการอะไร เพียงแค่เขาบอกว่าอยากจะได้สินค้าตัวนี้ ก็เร่ไปขายสินค้าของบริษัทโดยทันทีการทำเช่นนั้นจะทำให้ลูกค้านั้นคิดว่าเรามุ่งหวังแต่ผลกำไรและยอดขายของเราเพียงอย่างเดียว แต่หากว่าเรารู้จักที่จะเรียนรู้ที่จะไต่ถามความต้องการของลูกค้า ลูกค้าก็จะคิดว่าเราไม่ได้ต้องการผลกำไรหรือว่ายอดขายเพียงอย่างเดียว ที่แขวนกระสอบทราย ลูกค้าด้วยเช่นกันตัวอย่างค่าถามที่แสดงถึงความใสใจถึงความต้องการของลูกค้าก็อย่างเช่น‘ไม่ทราบว่าที่บ้านมีกันกี่คน แล้วมีกิจกรรมอะไรบ้าง ผมจะได้นนะนำรถในหมาะกับครอบครัว”"ที่บ้านชอบกินอะ ไรกันครับ ผมจะได้นนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้’’"จะย้ายเข้ามาอยู่กี่คนครับ จะได้แนะนำขนาดบ้านที่เหมาะกับจำนวนคน’’"ที่บ้านมีเด็กหรือเปล่าครับ ถ้ามีเลือกบ้านแบบที่มีพื้นที่ไปดีไหมคะ’’ฯลฯการที่เราถามความต้องการต่างๆ ของลูกค้า นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่อึดอัดเพราะรู้สืกว่าเราเอาแต่ขายของแล้ว    ลูกค้ายังรู้สืกประทับใจในความใส่ใจในความต้องการของเขาอีกต่างหาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คนที่ใส่ใจความต้องการของลูกค้า ไม่ได้สนแต่การปิดการขาย  อย่างเดียวก็จะสามารถที่จะปิดการขายได้มากกว่าคนที่ยัดเยียดแต่สินค้าของตนให้ โดยที่ไม่สนใจความต้องการของลูกค้าเลย

กระสอบทราย

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

กระสอบทรายสำเร็จรูป สำหรับนักมวยมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ตอนที่ 2 (ตอนจบ)

พูดจาดูถูกเพื่อโต้ทำตามที่ต้องการสำหรับคนบางคนนั้นการพูดจาดีๆ หรือว่าสรรเสริญเยินยอนั้นก็ไม่ได้ผล เพราะเขาขาดแรงจูงใจในการกระทำสิ่งเหล่านั้น วิธีหนึ่งของการจูงใจก็คือ    การใช้เสียงดูถูกเป็นแรงผลักดันที่ทำให้สิ่งที่เราต้องการได้ขับเคลื่อนไปตัวอย่างการพูดจาดูถูกก็อย่างเช่น “จะทำได้เหรอ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าทำดีกว่า” “ทำอะไรก็ไม่ตลอดรอดฝังทุกที ล้มเลิกทุกที คราวนี้จะไหวเหรอ” และหากว่าเขาทำท่าจะไม่ไหวก็ให้พูดประมาณ “ว่าแล้วเซียวว่าต้องเป็นอย่างนี้”    คำพูดแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายฮึดอยากจะทำงานให้สำเร็จเพื่อลบล้างคำสบประมาทอย่างไรก็ตามคำพูดดูถูกก็เหมือนเป็นดาบสองคม กระสอบทรายตั้งพื้น ที่อาจจะทำให้ความล้มพันธ์ของเราและฝ่ายตรงข้ามแย่ลงไป แต่อย่างไรก็ดีเรา



มวย

อาจจะใช้กลวิธีง่ายๆ โดยการยืมคำกล่าวของคนอื่นมาพูด หรือไม่ในตอนท้ายที่ทำงานสำเร็จก็ให้เรากล่าวคำซมจากใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจและเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อไปนั่นเองไม่กล่าวก้อยคำบังคับในการจูงใจการที่จะทำให้คนหนึ่งทำตามที่เรามุ่งหวังนั้น บางทีการกล่าวคำบังคับก็อาจจะมีปฏิกิริยาตอบกลับที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะเป็นการต่อต้านโดยการไม่ทำตามที่เราบอกไปเลยก็ได้ อย่างนั้เม่ดีแน่ๆธรรมชาติของคนเรานั้นไม่ชอบให้ใครมาบังคับ หรือว่าขีดเส้นให้เดินไปทางนั้นหรือทางนี้ ซึ่งหากว่าโดนบังคับก็จะรู้สึกต่อต้านโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากอยากจะให้การจูงใจได้ผลดีนั้น เราควรจะใช้ถ้อยคำที่เป็นการแนะน่าดีกว่าการบังคับตัวอย่างคำพูดที่เป็นคำที่จูงใจให้ทำโดยการเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่บังคับ เป็นการแนะนำก็อย่างเช่น “ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะ...”

"วิธีการของคุณก็ดีนะ แต่ถ้าเพิ่มตรงน!ปหน่อยจะเพอร์เฟกต์มากเลย” “ผมว่าลองไปหาวิธีที่หลากหลายแล้วคุณลองเลือกดีๆ กระสอบทรายซ้อมมวยราคาถูก ก็แล้วกัน” “ผมแนะนำวิธีการนี้นะคุณลองไปศึกษาหาฃ้อดีข้อเสียดูแล้วกัน” เป็นตันการกล่าวคำเช่นนี้เขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ถูกบังคับ ซึ่งเรานั้นก็เพียงชี้ทางให้เขาเห็นทางที่เราต้องการหรือทางที่เราเห็นว่าดีก็เทำนั้นจูงใจโดยใส่ความคิดของเราเข้าไปการที่จะให้ใครคนหนึ่งมีความคิดเห็นอย่างเดียวกับเรา หรือว่าเราอยากจะจูงใจให้ได้ผลจริงๆ นั้น เราอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยโดยการใส่ความคิดและทัศนคติของเราเข้าไปในหัวของเขาทีละนิด จนในที่สุดเขาก็จะมีความคิดที่คล้ายคลึงกับเราในที่สุดนั่นเอง ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นลูกหลาน ลูกน้อง หรือว่าอาจจะเป็นคนที่สูงกว่าเราด้วยทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒินั่นเองการใส่ความคิดของเราลงไป เราอาจจะชี้ให้เห็นทางที่ดี และอาจจะใช้คนหลายคนในการกล่าวอ้าง จนในที่สุดเขาจะรู้สึกว่าทางที่เราบอก หรือความคิดของเรานั้นถูกต้อง และเหมาะสมที่สุดตัวอย่างคำพูดที่ชักจูงโดยใส่ความคิดของเราลงไปก็อย่างเช่น“ผมว่าทำแบบนี้มันดูทันสมัยกว่า คุณก็คิดอย่างนั้นใช่ไหม” “แม่ว่าคนแต่งตัวอย่างนี้!ม่นำรักเลย ใส่ไปเที่ยวก็ยังพอได้ แต่ใส่ไปเรียนคงไม่ไหว” “พ่อว่าคนที่ชอบใช้ของตามคนอื่นนี่ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย  เนอะสาวน้อย”จากคำพูดดังกล่าวจะเห็นได้ว่าไม่ได้มีคำพูดไหนเลยที่บอกให้คิดตาม แต่การพูดจูงใจแบบนื้!ปเรื่อยๆ ไม่ต้องถี่ ไม่ต้องใช้เรื่องชํ้าแต่ให้ใช้กรอบความคิดคล้ายๆ กัน ก็สามารถที่จะครอบงำความคิดของผู้อื่น และยิ่งหากว่ามีคนซึ่งเราต้องการจะจูงใจมากล่าวด้วยแล้วการจูงใจก็จะยิ่งง่ายเข้าไ!ใหญ่พูดจายุยงกับการตัดสินใจที่พิดหากว่าคนใกล้ตัวของเรากำลังตัดสินใจผิดพลาด หรือว่าทำอะไรที่ฃัดกับความคิดเป้าชกทั้งๆ ที่ในใจนั้นอาจจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผิด หรือว่าไม่ดี แต่ด้วยทิฐิที่ทำให้ตัดสินใจแบบนั้น ก็ให้ยุยงไปเสียเลยตัวอย่างของคนที่สมควรจะใช้วิธีการยุยงแทนที่จะห้ามปรามเพราะยิ่งห้ามปรามไปเขาก็จะดื้อรั้นทำอยู่ดี  เพราะด้วยเหตุที่กำลังอยู่ในช่วงที่ทิฐิ ได้แก่ คนที่กำลังจะหย่าหรือเลิกทั้งๆ ที่ยังรักกัน คนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย คนที่กำลังจะลองยาเสพติดหรือสิ่งที่ไม่ดี เป็นต้นอย่างไรก็ดี นอกจากเรื่องของคำพูดแล้ว นํ้าเสียงในการพูดนั้นก็สำคัญ เพราะหากว่าเราใช้นํ้าเสียงที่สนับสนุนอย่างจริงใจ ก็อาจจะทำให้เขาคิดว่าดี แต่ก็ให้เราใช้นํ้าเสียงในเชิงประชดประชันดีกว่า อย่างเช่น “ก็ดีนี่ หย่าๆ กันไป นอนคนเดียวก็สบาย เหงาหน่อย อีกหน่อยเขาก็ไปมีคนอื่น แกจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะอยู่อย่างไร” “อยากตายก็ตายเลยสิ หากว่าไม่คิดถึงบุญคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาก็ตายเลย”

กระสอบทราย