วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ว่ากันด้วยเรื่องกระสอบทรายกับเป้าชก แตกต่างกันอย่างไร

ดูเหมือนว่าปัจจุบันนี้เรื่องของการค้าขายนี้จะมาแรงแซงโค้งทุกอย่าง ซึ่งในการขายการพูดนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะหากว่าพูดไม่ดีกั๊ทำให!ม่มีคนชื้อ หาซื้อกระสอบทรายมือสอง แต่หากว่าพูดดี พูดเก่ง และพูดให้คนมาชื้อของเราได้ แน่นอนว่าก็จะมืแต่คนมาซื้อของกับเราอย่างแน่นอน การพูดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อการค้าขาย ดังนั้นหากว่าเราอยากจะเป็นนักขายมือหนึ่ง เราก็ต้องเป็นนักพูดมือหนึ่งด้วยเช่นเดียวกันพูดออ่ะขายใต้การขายของให้ได้นั้น ก็มีหลักทั่วๆ ไปของการขายซึ่งก็เป็นสิงที่เราจะต้องจำเอาไวใส่ใจ เพื่อที่จะได้ขายของได้อย่างมืออาชีพ และสามารถที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าและทำให้เราดูน่าเชื่อถือได้ในปัจจุบันนั้นคนเราขี้ระแวงมากยิ่งขึ้น 

อาจจะเป็นเพราะข้อมูลข่าวสารที่บ่งบอกว่ามืมิจฉาชีพ หรือว่าพวกที่ต้มตุ๋นหลอกขายสินค้าจำนวนมาก จึงทำให้การขายของต้องมืชั้นเชิงมากยิ่งขึ้น จะต้องทำให้ลูกค้าเชื่อว่าเราไม่ได้มาหลอกลวง หรือว่าอยากจะหาผลประโยชน์ใดๆ และเราก็ต้องทำตามนั้น ก็คือขายของด้วยความสุจริตใจนั่นเองการขายของให้ได้อย่างมืออาชีพนั้น เราควรจะเรียนรูในเรื่องต่างๆ ด้งต่อไปนี้1รียนรู้ที่จะพูดกับคนคนแต่ละคนนั้นมืลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บางคนสุภาพอ่อนโยน เราพูดอะไรก็ฟัง บางคนก็ตั้งท่าว่าเราจะมาหลอกลูกเดียว  บางคนกั๊คิดอคติกับตัวเรา และนอกจากนี้แต่ละคนก็มีความรู้ความคิดที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การพูดจาของเรากับคนแต่ละคนจึงต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบุคลิกของคนที่เราต้องการขายของให้ด้วยเหตุที่แต่ละคนนั้นมีพื้นฐานของความต้องการ และอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ในการเสนอขายของเราแต่ละครั้งก็ควรจะเป็นในทางที่แตกต่างกันออกไป

และหากว่าเรามีสินค้าในมือหลายต้วก็ควรจะเลือกที่จะขายสินค้าให้กับแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นหากว่าเราเป็นเซลล์ขายหนังสือกับว่าที่คุณแม่เราก็อาจจะเลือกหนังสือเกี่ยวกับการตั้งท้อง เด็กวัยรุ่นผู้หญิงก็อาจจะเลือกขายหนังสือนิยายวัยรุ่น เจ้าของแผงหนังสือต่างจังหวัดก็อาจจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการทำเกษตร กระสอบทรายราคาถูก นิยายเล่มเล็กๆ ที่อ่านเพลินๆ เป็นต้นการเรียนรู้ที่จะพูดกับคนได้นั้น  เราจะต้องรู้พื้นฐานความต้องการและจิตใจของเขา และถ้าจะให้ดี เราควรจะคาดเดาอารมณ์ความรู้ของเขาในขณะนั้นได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคนนั่นเองนักขายที่ดีควรจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อหา ไมใช่เดินหนี หรืออยากจะเร้นกาย ไม่อยากจะให้เจอ ด้งนั้นเราจึงควรจะรู้ว่าเราควรจะทำอย่างไรให้ลูกค้านั้นชื่นชอบ นอกจากลูกค้าในปัจจุบันแล้วยังต้องคิดถึงลูกค้าในอนาคตอีกด้วยรู้จักกามความต้องการของลูกค้านักขายหลายๆ คนมีความผิดพลาด หรืออาจจะเรียกได้ว่าละเลยที่จะถามความต้องการของลูกค้า ว่าเขาต้องการอะไร เพียงแค่เขาบอกว่าอยากจะได้สินค้าตัวนี้ ก็เร่ไปขายสินค้าของบริษัทโดยทันทีการทำเช่นนั้นจะทำให้ลูกค้านั้นคิดว่าเรามุ่งหวังแต่ผลกำไรและยอดขายของเราเพียงอย่างเดียว แต่หากว่าเรารู้จักที่จะเรียนรู้ที่จะไต่ถามความต้องการของลูกค้า ลูกค้าก็จะคิดว่าเราไม่ได้ต้องการผลกำไรหรือว่ายอดขายเพียงอย่างเดียว ที่แขวนกระสอบทราย ลูกค้าด้วยเช่นกันตัวอย่างค่าถามที่แสดงถึงความใสใจถึงความต้องการของลูกค้าก็อย่างเช่น‘ไม่ทราบว่าที่บ้านมีกันกี่คน แล้วมีกิจกรรมอะไรบ้าง ผมจะได้นนะนำรถในหมาะกับครอบครัว”"ที่บ้านชอบกินอะ ไรกันครับ ผมจะได้นนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้’’"จะย้ายเข้ามาอยู่กี่คนครับ จะได้แนะนำขนาดบ้านที่เหมาะกับจำนวนคน’’"ที่บ้านมีเด็กหรือเปล่าครับ ถ้ามีเลือกบ้านแบบที่มีพื้นที่ไปดีไหมคะ’’ฯลฯการที่เราถามความต้องการต่างๆ ของลูกค้า นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่อึดอัดเพราะรู้สืกว่าเราเอาแต่ขายของแล้ว    ลูกค้ายังรู้สืกประทับใจในความใส่ใจในความต้องการของเขาอีกต่างหาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คนที่ใส่ใจความต้องการของลูกค้า ไม่ได้สนแต่การปิดการขาย  อย่างเดียวก็จะสามารถที่จะปิดการขายได้มากกว่าคนที่ยัดเยียดแต่สินค้าของตนให้ โดยที่ไม่สนใจความต้องการของลูกค้าเลย

กระสอบทราย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น